วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
พระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท เป็นปราสาทที่สร้างด้วยเครื่องไม้ทั้งองค์ นับเป็นพระมหาปราสาทองค์แรกในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถ่ายแบบพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทที่กรุงศรีอยุธยามาสร้างขึ้น เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๖ สร้างสำเร็จและทำพิธียกยอดพระมหาปราสาทเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๓๒๗ เมื่�! ��พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติปกครองสยามประเทศเมื่อปีพ.ศ.๒๓๒๕ นั้นยังไม่ได้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างถูกต้องตามตำรับโบราณราชประเพณี เพียงแต่ได้ทรงประกอบการพระราชพิธีปราบดาภิเษกโดยสังเขปเท่านั้น ฉะนั้นเมื่อได้สร้างพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาทสำเร็จโดยสมบูรณ์แล้ว จีงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให�! ��ตั้งการพระราชพิธีบรมรา� �าภิเษกตามระบบโบราณขัตติยราชประเพณีอีกครั้งหนึ่งเมื่อ พ.ศ.๒๓๒๘ โดยใช้พระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาทเป็นพระราชพิธีมณฑล ต่อมาในวันอาทิตย์ เดือนเจ็ด ขึ้นหนึ่งคำ ปีระกา เอกศก จุลศักราช ๑๑๕๑ (พ.ศ.๒๓๓๒) อสนีบาตตกต้องหน้ามุขเด็จพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาทแล้วเกิดเป็นเพลิงลุกลามไหม้เครื่องบนและหลังคา แล้วเลยลุกลามไหม้ทั้งองค์พระมหาปราสาท และพ! ระปรัศว์ซ้ายลงหมดสิ้น พระบามสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยารัตนาพิพิธ (สน) สมุหนายก เป็นแม่กองรื้อซากพระมหาปราสาทที่ถูกไฟไหม้ออกแล้วสร้างพระมหาปราสาทขึ้นใหม่ แต่ไม่ได้สร้างเหมือนองค์เดิม ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ กล่าวถึงลักษณะที่ผิดแผกแตกต่างระหว่างพระมหาปราสาทองค์เก่าและองค์ใหม่ไว้ดั! งนี้
"ปราสาทองค์ก่อนนั้นสูงใหญ่เท่าพระที่นั่งสรรเพชญปราสาท กรุงเก่า มุขหน้ามุขหลังนั้นยาวกว่ามุขข้าง และมุขเบื้องหลังนั้นอยู่ที่ข้างใน ยาวไปจดถึงพระปรัศว์ซ้ายพระปรัศว์ขวา พระมหาปราสาทใหม่นี้ ยกออกมาตั้ง ณ ที่ข้างหน้าทั้งสิ้น มุขทั้ง ๔ นั้นก็เสมอกันทั้ง ๔ ทิศ ใหญ่สูงเท่าพระที่นั่งสุริยามรินทร์ กรุงเก่ายกปะราลีเสียมิได้มีเหมือนองค์ก่อน แต่มุขเด็จ! ยอดทั้ง ๔ มุมนั้นยกทวยเสีย ใช้รูปครุฑเข้าแทนแล้วให้ฐาปนาพระที่นั่งขึ้นใหม่ข้างใน ต่อมุขหลังเข้าไปอีกหลัง ๑ พอเสมอด้วยมุขปราสาทองค์เก่า พระราชทานนามว่า พระที่นั่งพิมานรัตยา แล้วทำพระปรัศว์ซ้ายขึ้นใหม่คงตามเดิม หลังคาปราสาทและมุข กับทั้งพระที่นั่งพิมานรัตยา พระปรัศว์ ดาดด้วยดีบุกเหมือนอย่างเก่าทั้งสิ้น ครั้นการพระมหาปราสาทลงรักปิดทองเสร็จ�! �ล้ว จึงพระราชทานนามปราส� �ทองค์ใหม่ว่า "พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท" "
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น