วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2550

แพลเลเดียมแพลเลเดียม
พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลงกฎ กรมหมื่นอดิศรอุดมศักดิ์ (๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๒๓ - ๑๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๕) อดีตรองเสนาบดีกระทรวงกลาโหมและอดีตประธานองคมนตรี ประสูติ ณ วังท้ายวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อวันอาทิตย์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง จุลศักราช ๑๒๔๒ ตรงกับวันที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๒๓ เมื่อประสูติทรงเป็นหม่อมเจ้าลำดับที่ ๕ ของจำนวนพระโอรสและพระธิดาทั้งสิ้น ๓๗ พระองค์ ใน พลโท พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศุขสวัสดี กรมหลวงอดิศรอุดมเดช และเป็นลำดับที่ ๓ ในจำนวน ๓ พระองค์ของหม่อมมารดา คือ หม่อมขาบ
พุทธศักราช ๒๔๗๓ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาพระอิสริยยศเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โดยมีคำนำพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลงกฎ ครุฑนาม ทรงศักดินา ๓๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า
พุทธศักราช ๒๔๙๕ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้เฉลิมพระยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอดิศรอุดมศักดิ์ ครุฑนาม ทรงศักดินา ๑๑๐๐๐ ตามอย่างธรรมเนียม พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าต่างกรมทั้งปวง และให้ทรงตั้งเจ้ากรมเป็นหมื่นอดิศรอุดมศักดิ์ ถือศักดินา ๕๐๐ ปลัดกรมเป็นพันบริรักษ์ภูเบศร ถือศักดินา ๓๐๐ สมุห์บัญชีเป็นพันวิเศษพลขันธ์ ถือศักดินา ๒๐๐
พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลงกฎ กรมหมื่นอดิศรอุดมศักดิ์ ประชวรด้วยพระโรคไข้ไทฟอยด์ โดยมีพระอาการหนักจนถึงสิ้นพระชนม์ ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในวันที่ ๑๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๕ สิริรวมพระชันษา ๗๒ ปี ๑ เดือน ๒๖ วัน ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงพระศพออกเมรุ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วันที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๙๖
ในระหว่างพระชนม์ชีพ พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลงกฎ กรมหมื่นอดิศรอุดมศักดิ์ ได้ทรงปฏิบัติหน้าที่ราชการสนองคุณแผ่นดินมาตั้งแต่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จออกไปจัดระเบียบกองทหารสำหรับประจำรักษาหัวเมืองในมณฑลภาคพายัพ ตามพระบรมราโชบายเพื่อรักษาความปลอดภัยแห่งพระราชอาณาเขต อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการก่อความไม่สงบของพวกเงี้ยวในภาคเหนือ จนได้ดำรงพระยศและพระตำแหน่งเป็นนายพลตรีผู้บัญชาการกองพลที่ ๗ มณฑลพิษณุโลก ต่อมาในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ ๖ ได้ทรงเป็นแม่ทัพกองที่ ๒ และนายพลโทแม่ทัพกองทัพน้อยทหารบกที่ ๒ ครั้นถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ ๗ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า ฯ ให้ย้ายกลับเข้ามาในพระนครเพื่อให้ทรงเป็น จเรทหารบก เสนาธิการทหารบก และรองเสนาบดีกระทรวงกลาโหม จนกระทั่งพ้นจากหน้าที่ราชการเมื่อคณะราษฎรได้เปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน ดำรงพระฐานะเป็น "นายทหารนอกราชการ" และ "นายทหารพ้นราชการ" อยู่นานถึงประมาณ ๑๕ ปี จนกระทั่ง ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า ฯ ให้กลับมารับพระราชทานสนองพระราชภาระงานฝ่ายพระมหากษัตริย์ให้ทรงดำรงตำแหน่งต่าง ๆ คือ อภิรัฐมนตรี คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ องคมนตรี และประธานองคมนตรี

ตราประจำพระองค์

พ.ศ. ๒๔๓๕ เข้ารับราชการเป็นนักเรียนนายร้อยชั้นเล็ก และสอบไล่เลื่อนชั้นเป็นนักเรียนนายร้อยชั้น ๑ ได้เป็นที่ ๑
พ.ศ. ๒๔๓๗ สอบไล่เลื่อนชั้นเป็นนักเรียนนายร้อยชั้น ๒ ได้เป็นที่ ๔
พ.ศ. ๒๔๓๘ สอบไล่เลื่อนชั้นเป็นนักเรียนนายร้อยชั้น ๓ ได้เป็นที่ ๑
พ.ศ. ๒๔๔๑ สอบไล่เพื่อออกเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ได้เป็นที่ ๑

ไม่มีความคิดเห็น: